หญิงตั้งครรภ์ สามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้น (Booster shot) ได้หรือไม่

โดย Boontharika Boonchaisaen

หญิงตั้งครรภ์อาจเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำในการติดเชื้อโควิด-19 แต่หากติดเชื้อโควิด-19 แล้ว อาจทำให้อาการป่วยรุนแรงขึ้นมากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ รวมถึงอาจจำเป็นต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งหากอาการรุนแรงมาก อาจต้องเข้ารักษาในหอผู้ป่วยวิกฤตอีกด้วย นอกจากนี้การติดเชื้อโควิด-19 ในระหว่างตั้งครรภ์ยังเพิ่มความเสี่ยงของการคลอดก่อนกำหนด และส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆในระหว่างตั้งครรภ์ตามมาได้ 

คำแนะนำในการฉีดวัคซีนโควิด -19 สำหรับหญิงตั้งครรภ์

จากข้อมูลของ CDC หรือ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ ได้แนะนำว่า

  • หญิงตั้งครรภ์ทุกราย หรือหญิงตั้งครรภที่มีความเสี่ยงสูงว่าอาจเกิดอาการรุนแรงหากติดเชื้อโควิด-19 และในรายที่กำลังวางแผนตั้งครรภ์ ควรได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 รวมทั้งหญิงที่กำลังให้นมบุตร ก็ควรได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เช่นเดียวกัน
  • หญิงตั้งครรภ์ควรได้รับbooster shotหรือการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด – 19เป็น เข็มที่ 3
  • มีหลักฐานยืนยันความปลอดภัยและประสิทธิผลของการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ระหว่างตั้งครรภ์ ข้อมูลเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าประโยชน์ของการรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 มีมากกว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังได้รับการฉีดวัคซีนในระหว่างตั้งครรภ์
  • ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าวัคซีนใดๆ รวมทั้งวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทำให้เกิดปัญหาของการเจริญพันธุ์ในเพศหญิงหรือชาย

และจากข้อมูลของ American College of Obstetricians and Gynecologists หรือสมาคมวิชาชีพของแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาในสหรัฐอเมริกา ได้แนะนำว่า

  • ในหญิงตั้งครรภ์หรือเพิ่งคลอด จนถึง 6 สัปดาห์หลังคลอด รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ที่กำลังตั้งครรภ์และเพิ่งตั้งครรภ์ ควรฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็น booster shot หรือเข็มที่ 3
  • มีคำแนะนำนำสำหรับกลุ่มที่ได้รับวัคซีน J&J/Janssen ครบแล้ว ควรได้รับเข็มกระตุ้น อย่างน้อย 2 เดือนหลังการฉีดวัคซีนเข็มแรก และในกลุ่มที่ได้รับวัคซีน mRNA ควรได้รับเข็มกระตุ้น อย่างน้อย 6 เดือนหลังจากฉีดครบ 2 เข็ม
  • การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นหรือboosterอาจไม่จำเป็นต้องเป็นชนิดเดียวกันกับวัคซีนเข็ม 1 หรือ 2 ก็ได้ ซึ่งสอดคล้องกับคำแนะนำของ CDC ที่อนุญาตให้ใช้วัคซีนสูตรผสม หรือต่างชนิดกันเป็นเข็มกระตุ้นได้

เช่นเดียวกันกับ ข้อมูลของ National Health Service (NHS) หรือระบบบริการสุขภาพแห่งชาติของอังกฤษ ได้แนะนำว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มกระตุ้น สามารถช่วยปกป้องการป่วยหนักจากเชื้อ COVID-19 ในระยะยาวได้ และหญิงตั้งครรภ์ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มประชากรที่ควรได้รับการกระตุ้นเช่นกัน ซึ่งระยะเวลาในการฉีดนั้นควรห่างจากเข็ม 2 อย่างน้อย 6 เดือน โดยสามารถเลือกฉีดได้ทั้ง Oxford/AstraZeneca vaccine, Pfizer/BioNTech หรือ Moderna vaccine เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม จากข่าวการกลายพันธุ์ล่าสุดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือโอไมครอน ทำให้ CDC รวมถึงหลายหน่วยงานทั่วโลกเล็งเห็นความสำคัญและความจำเป็นของการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นมากขึ้น

และหากท่านใดมีข้อสงสัยซักถามเพิ่มเติมเรื่องการฉีดวัคซีนสามารถสอบถามได้โดยตรงที่รพ.ใกล้บ้าน หรือ Call center หมอพร้อม ได้นะคะ

แปลและเรียบเรียงโดย  อยู่กับยา

แหล่งที่มา : CDCAmerican College of Obstetricians and GynecologistsNational Health Service

Facebook Comments

You may also like