Office syndrome (OFS) เป็นกลุ่มอาการของ myofascial pain syndrome ซึ่งเกี่ยวข้องกับอาการปวดกล้
วิธีรักษาอาการออฟฟิศซินโดรม
การรักษากลุ่มอาการออฟฟิศซิ
- การรักษาด้
วยยา - การปรับสภาพแวดล้อมในการทำงาน
- การทำกายภาพบำบัดเพื่อยืดกล้
ามเนื้อ - การออกกำลังกายเพื่อรักษาปวดหลั
งเพิ่มสมรรถภาพร่างกาย และปรับอิริยาบถให้ถูกต้อง - การรักษาด้วยศาสตร์ทางเลือกอื่น เช่น การฝังเข็ม การนวดแผนไทย การรักษาด้วยคลื่นกระแทก เป็นต้น
ยาที่ใช้ในการรักษาอาการออฟฟิ ศซินโดรม มีดังนี้
- ยารับประทาน ยกตัวอย่างเช่น
- Paracetamol (พาราเซตามอล)
- ยาบรรเทาปวด ลดอักเสบที่ไม่สเตียรอยด์ หรือ NSAIDs(เอ็นเสด) เช่น Ibuprofen, Diclofenac, Meloxicam, Celecoxib
- ยาคลายกล้ามเนื้อ หรือ muscle relaxants เช่น Paracetamol+Orphenadrine, Tolperisone
- ยาบรรเทาปวดชนิดทาภายนอก (topical analgesics)ในปัจจุบันยานวดหรือยาทาแก้
ปวดกล้ามเนื้อนั้น มีให้เลือกใช้หลากหลายแบบด้วยกั น อาทิเช่นแบบเจล, แบบครีม, แบบน้ำ, แบบสเปรย์พ่น หรือแบบแผ่นแปะ โดยมักมีส่วนผสมต่างๆ ดังนี
- NSAIDs (เอ็นเสด) นิยมนำมาใช้ในยาทาแก้ปวด เช่น Diclofenac (ไดโคลฟีแนค), Piroxicam (ไพร็อกซิแคม), Ibuprofen (ไอบูโพรเฟน)
- Methyl salicylate (เมทิลซาลิไซเลต) จะมีฤทธิ์ลดอาการปวด ให้ความรู้สึกร้อน ช่วยคลายอาการปวดได้ดี เพราะสามารถซึมผ่านผิวหนังได้
อย่างอิสระและออกฤทธิ์ ลดอาการปวดบริเวณที่มีอาการได้ - Menthol (เมนทอล) มีฤทธิ์ทำให้เส้นเลือดหดตัว ช่วยให้อาการปวด บวม แดงจะบรรเทาลง
- อื่น ๆ เช่น Aescin (เอสซิน)ช่วยลดลดอาการบวม, Camphor (การบูร) ช่วยแก้อาการปวด แก้เคล็ดบวม ขัดยอก เป็นต้น
อย่างไรก็ตามการเลือกใช้
ยาในการรักษา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรร่ วมด้วย เนื่องจากหากผู้ป่วยมีประวัติ แพ้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs อาจจำเป็นต้องซักประวัติและพิ จารณาเลือกใช้ยาให้ละเอียดและถู กต้อง เพื่อป้องกันการแพ้ยาซ้ำ
ยกตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยบางรายมีประวัติแพ้ยา Ibuprofen การเลือกใช้ยาแก้ปวด อาจจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงยา naproxen เนื่องจากเป็นยาที่มีโครงสร้าง Arilpropionic acids เช่นเดียวกันกับ Ibuprofen เป็นต้น
เรียบเรียงโดย อยู่กับยา
แหล่งที่มา : ศูนย์แพ้ยา โรงพยาบาลศิริราช, Medical leaders thailand