เวลาเภสัชกรจ่ายยา.. นอกจากคำถามที่เราเคยได้ยินกันเป็นประจำว่า ชื่อ-นามสกุลอะไร, มีประวัติแพ้ยาหรือไม่, มีโรคประจำตัวอะไรบ้าง ยังมีอยู่อีกหนึ่งคำถามที่เภสัชกรทุกคนควรใส่ใจนั่นก็คือ “เป็นจี-6-พี-ดีหรือไม่?”
หลายคนอาจกำลังงงว่า “จี-6-พี-ดีคืออะไร” และสำคัญอย่างไร ทำไมถึงต้องถามก่อนจ่ายยาด้วย วันนี้ทีมงานอยู่กับยาจะมาอธิบายให้เข้าใจกันค่ะ
จี-6-พี-ดี คืออะไร?
G-6-PD(Glucose-6-Phosphate Dehydrogenase) หรือเอนไซม์กลูโคส-6-ฟอสเฟต ดีไฮโดรจีเนส เป็นเอนไซม์ที่อยู่ในเซลล์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการใช้พลังงาน สร้างสารในเซลล์ กำจัดสารที่เป็นพิษต่อเซลล์ และปกป้องเม็ดเลือดแดงไม่ให้ถูกทำลายได้ง่าย
ภาวะพร่องเอนไซม์จี-6-พี-ดี(G6PD deficiency) คืออะไร?
ภาวะพร่องเอนไซม์จี-6-พี-ดี(G6PD deficiency)ในเม็ดเลือดนั้น เป็นภาวะที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมเกิดจากความผิดปกติของยีนจี-6-พี-ดี ที่อยู่บนโครโมโซมเพศ ซึ่งภาวะนี้จะติดตัวไปตลอดชีวิตและอาจถ่ายทอดไปยังลูกหลานได้ ผู้มีภาวะพร่องเอนไซม์จี-6-พี-ดี ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ แต่อาจมีอาการที่สำคัญได้ 3 อย่างคือ ภาวะซีดอย่างเฉียบพลัน ภาวะเหลืองจัดในทารกแรกเกิด และภาวะซีดเรื้อรัง
ยาที่ต้องระวังในผู้ที่มีภาวะพร่องเอนไซม์จี-6-พี-ดี
ยาบางชนิดอาจกระตุ้นให้ผู้มีภาวะนี้เกิดอาการเม็ดเลือดแดงแตก ซีดลง มีอาการดีซ่าน ตัวเหลือง ตาเหลือง และปัสสาวะเป็นสีดำ หรือสีโค้ก อย่างเฉียบพลัน ได้ ดังตารางต่อไปนี้
หมายเหตุ *Definite risk of hemolysis คือ ยาที่ควรหลีกเลี่ยงในผู้มีภาวะพร่องเอนไซม์จี-6-พี-ดี และ *Possible risk of hemolysis คือ ยาที่ควรใช้ด้วยความระวัดระวัง แต่ถ้าจำเป็นสามารถใช้ได้(ทั้งนี้อาจขึ้นกับขนาดยาที่ใช้)
อาหารและสารเคมีที่ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง
นอกจากยาบางชนิดที่ต้องระวังในผู้มีภาวะนี้แล้ว ยังมีอาหารและสารเคมีบางชนิดที่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังด้วยเช่นกัน คือ
- ถั่วปากอ้า (fava bean) โดยรับประทานผลดิบ
- บลูเบอร์รี่
- ไวน์แดง
- ลูกเหม็น (naphthalene)
- การบูรและพิมเสน (camphor)
- Toluidine blue (สารช่วยวินิจฉัยมะเร็ง)
- สารช่วยวินิจฉัย organic arsenic
สังเกตได้อย่างไร ว่าเกิดเม็ดเลือดแดงแตก ?
ผู้ป่วยจะซีดลงทันที เนื่องจากเม็ดเลือดแดงแตกในหลอดเลือด จะสังเกตเห็นปัสสาวะเป็นสีดำหรือสีโค้ก เนื่องจากฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงถูกกรองออกมากับไต ซึ่งจำเป็นต้องนำส่งรพ.เพื่อให้การรักษาประคับประคองทันที
อันตรายที่เกิดขึ้นเมื่อมีเม็ดเลือดแดงแตกเฉียบพลัน คือ ภาวะไตวาย เนื่องจากไตขาดเลือดเฉียบพลันเพราะขาดเม็ดเลือดแดงที่นำออกซิเจนมาหล่อเลี้ยง และยังได้รับฮีโมโกลบินปริมาณมากซึ่งเป็นพิษต่อไตโดยตรง
การรักษาเป็นการรักษาประคับประคอง เช่น การให้เลือด การให้น้ำที่เพียงพอเพื่อป้องกันไตวาย ส่วนการแตกของเม็ดเลือดแดงจะหยุดได้เอง
ควรปฏิบัติตัวอย่างไร เมื่อมีภาวะพร่องเอนไซม์จี-6-พี-ดี
- แจ้งให้แพทย์ทราบเสมอ
- เมื่อเกิดอาการไม่สบาย ควรปรึกษาแพทย์ ไม่ซื้อยากินเอง
- เมื่อเกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตก ควรเข้าโรงพยาบาลเพื่อให้การรักษาทันที
- หลีกเลี่ยงยา อาหารหรือสารที่อาจกระตุ้นให้เม็ดเลือดแดงแตก
- เมื่อจะมีบุตรควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์เพื่อวางแผนครอบครัว และเพื่อทราบถึงอัตราเสี่ยงของการที่บุตรจะมีภาวะนี้
อย่าลืมพกสมุดประจำตัวผู้มีภาวะพร่องเอนไซม์จี-6-พี-ดีติดตัวอยู่เสมอ และยื่นให้แพทย์ พยาบาล เภสัชกรดูทุกครั้งนะคะ