อนาคตใหม่ ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมืองแต่อย่างใด แต่เกี่ยวแน่ๆเลยคือ ผู้ป่วยเอดส์ หรือ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV ซึ่ง BBC News รายงานข่าวว่า
พบผู้ป่วยชาวอังกฤษรายหนึ่ง ตรวจไม่พบเชื้อไวรัส เอชไอวี (Human immunodeficiency virus, HIV) มานาน 18 เดือนแล้ว และไม่ได้รับยาต้านไวรัสเอชไอวีอีกต่อไป หลังจากได้รับการปลูกถ่าย Stem cell หรือ เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต โดยวารสารเนเจอร์ (Nature) ระบุว่าเหตุการณ์ที่เกิดกับผู้ป่วยรายนี้นั้น เป็นกรณีที่ 2 ของโลก
มาทำความรู้จักการปลูกถ่าย Stem cell หรือเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต กันก่อนดีกว่า
ซึ่งผู้ป่วยที่เป็นข่าวรายนี้ ถูกวินิจฉัยว่า ติดเชื้อเอชไอวีในปี 2003 และป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองฮอดจ์กินส์ (Hodgkin’s lymphoma) ขั้นรุนแรงในปี 2012 เขาได้รับเคมีบำบัดเพื่อรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองและยังได้รับการปลูกถ่ายปลูกถ่าย Stem cell หรือ เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตจากผู้บริจาคที่สามารถต้านทานเชื้อเอชไอวี(HIV) ทำให้ขณะนี้ตรวจไม่พบทั้งมะเร็งและเชื้อเอชไอวี(HIV)ในตัวเขา
แล้วเชื้อเอชไอวี (HIV) หายไปจริงหรือ?
เชื้อเอชไอวี (HIV) นั้นมีหลากหลายสายพันธุ์ แต่สายพันธุ์ดั้งเดิมคือ เอชไอวี 1 (HIV-1) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ดั้งเดิมที่แพร่ระบาดอยู่ใน ยุโรป แอฟริกากลาง และสหรัฐอเมริกา ส่วนเอชไอวี 2 (HIV-2) แพร่ระบาดในแถบแอฟริกาตะวันตก ส่วนในประเทศไทยนั้น พบบ่อยมี เชื้อเอชไอวี 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ เออี (A/E) หรือ (E) พบได้มากถึง 95%
ซึ่งร่างกายคนเราจะรับเชื้อเอชไอวี (HIV) เข้ามาโดยอาศัยซีซีอาร์ 5 (CCR5) เป็นตัวรับเชื้อเอชไอวี-1 (HIV-1) หรือที่เรียกว่า coreceptor ให้เข้าสู่เซลล์ โดยเอชไอวี(HIV) สายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์ที่พบเป็นส่วนใหญ่
แต่ก็ยังมีคนส่วนน้อยที่ต้านทานเชื้อเอชไอวี(HIV) และมีตัวรับ ซีซีอาร์ 5 (CCR5) ที่กลายพันธุ์ 2 แบบ ทำให้ไวรัสเอชไอวี (HIV) ไม่สามารถเข้าไปในเซลล์ของร่างกายได้ตามปกติ
เช่นเดียวกับผู้ป่วยรายนี้ที่ได้รับการปลูกถ่าย Stem cell หรือ เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตจากผู้บริจาคที่มี ซีซีอาร์ 5 (CCR5) กลายพันธุ์ จึงทำให้เขาต้านทานเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) ได้ด้วย แต่อย่างไรก็ตามเซลล์ที่มีเอชไอวี(HIV)อยู่ อาจจะยังคงอยู่ในร่างกายในภาวะสงบนานหลายปี
ซึ่งการรักษาวิธีดังกล่าว นักวิจัยแนะนำว่า ไม่เหมาะสำหรับใช้เป็นมาตรฐานรักษาเอชไอวี(HIV)เนื่องจากพิษที่ได้จากเคมีบำบัด ซึ่งจำเป็นต้องใช้เพื่อรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองในผู้ป่วยรายนี้ แต่ก็เป็น“อนาคตใหม่” ของวงการแพทย์เลยทีเดียวค่ะ
แปลและเรียบเรียงโดย อยู่กับยา
แหล่งที่มา : BBC News, การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต, โรคเอดส์ การติดต่อ และการป้องกันที่ทุกคนควรรู้