เรื่องเล่าของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง.. ที่กำลังจะทำให้คุณเห็นคุณค่าของเวลามากขึ้น
ชายหนุ่มซึ่งหลงรักการสะสมนาฬิกาเป็นชีวิตจิตใจ เห็นนาฬิกาข้อมือที่ไหนสวยๆ ไม่ได้เป็นต้องซื้อเก็บไว้ทุกเรือน หลายครั้งที่แฟนสาวเตือนให้เก็บเงินไว้ซื้อของใช้ที่จำเป็นกว่า แต่เขาก็ไม่ได้สนใจฟัง.. จนอยู่มาวันหนึ่ง ฝ่ายชายไปซื้อนาฬิกามาอีกเรือน แต่เป็นเรือนที่ราคาค่อนข้างสูงพอสมควร แฟนสาวจึงรู้สึกไม่พอใจและทะเลาะกันรุนแรงกว่าทุกครั้ง
“ทำไม คุณต้องซื้อนาฬิการาคาแพงขนาดนี้ ทั้งๆที่ตอนนี้คุณก็มีนาฬิกาอยู่ตั้งหลายเรือนแล้วนะ
รู้มั้ยว่าช่วงนี้เศรษฐกิจมันไม่ค่อยดี คุณน่าจะเก็บเงินไว้ใช้ตอนจำเป็นดีกว่ามั้ย” แฟนสาวขึ้นเสียง
“แล้วคุณจะมายุ่งทำไม มันสวย ผมอยากได้ และที่สำคัญมันก็เงินผม คุณไม่ต้องมายุ่งกับชีวิตผม
และอย่ามาขึ้นเสียงแบบนี้ด้วย ผมไม่ชอบ!” ชายหนุ่มตวาดกลับด้วยความโมโห
แฟนสาวได้ยินดังนั้น ถึงกับทรุดนั่งลงกับพื้นด้วยความเสียใจ และพูดทั้งน้ำตาว่า
“คุณรู้มั้ยว่าทำไม ฉันถึงพูดแบบนั้น ก็เพราะฉันเป็นห่วงคุณ ฉันไม่อยากเห็นคุณต้องทำงานหนัก
บางวันต้องทำถึงเช้า ฉันอยากให้คุณดูแลสุขภาพ และอยากให้เก็บเงินไว้ใช้เมื่อจำเป็น
เพราะถ้าวันหนึ่ง ที่ฉันไม่อยู่แล้ว คุณจะได้ไม่ต้องลำบาก แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ฉันยุ่งกับชีวิตของคุณ ฉันก็จะไป”
แล้วหญิงสาวก็เก็บกระเป๋าออกจากบ้านไปกลางดึก โดยที่ชายหนุ่มไม่รู้เลยว่า การจากไปครั้งนี้ จะเป็นการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของแฟนสาว
หลายเดือนผ่านไป …
มีจดหมายส่งมาหาชายหนุ่มที่บ้าน จ่าหน้าซองเป็นชื่อของแฟนสาว เขาดีใจมากที่เธอติดต่อกลับมา แต่ทันทีที่เขาแกะจดหมายออกดู กลับเห็นเป็นการ์ดงานศพของผู้หญิงที่เขารักมากที่สุด เขาถึงกับนั่งเข่าทรุดลงไปกองที่พื้น ทันใดนั้น ภาพความทรงจำสุดท้ายที่เห็นแฟนสาวของเขาทรุดลงไปกองที่พื้นแล้วนั่งร้องไห้ในวันนั้น มันก็ย้อนกลับมาอีกครั้ง แต่วันนี้กลายเป็นเขาเอง ที่ร้องไห้ราวกับคนเสียสติ เขาโทรไปถามที่บ้านของแฟนสาวว่ามันเกิดอะไรขึ้น แม่ของเธอ เล่าว่าเธอเพิ่งจะตรวจพบว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เมื่อสามเดือนก่อน หมอบอกว่า เธออาจจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน หกเดือน แต่เสียดายที่เธอสู้กับความเจ็บปวดได้เพียงแค่สี่เดือนเท่านั้น.. แม่ของแฟนสาวเล่าให้ชายหนุ่มฟังด้วยเสียงสั่นเครือ
หลังจากวางสายจากแม่ของแฟนสาวแล้ว ชายหนุ่มรีบวิ่งขึ้นไปหยิบนาฬิกาเรือนที่เป็นต้นเหตุให้เขากับแฟนทะเลาะกัน ขว้างทิ้งลงที่พื้น ด้วยความโมโห และเสียใจมาก ที่วันนั้นเขาไม่ยอมฟังในสิ่งที่แฟนสาวต้องการจะบอก
และวันนี้.. เขาถึงได้เข้าใจว่า
เงินอาจจะซื้อ “นาฬิกา” ได้ แต่เงินไม่สามารถซื้อ “เวลา” ที่ผ่านไป ให้ย้อนกลับคืนมาได้เหมือนเดิม
ดังนั้น จึงอยากให้คุณผู้อ่านตระหนักถึงคุณค่าของเวลา เพราะกว่าเราจะรู้ว่ามัน “สำคัญ” แค่ไหน อาจจะสายเกินไปเสียแล้วนะคะ
ขอบคุณภาพจาก https://quotefancy.com