“คุณหมอมาแล้วๆ.. ” เสียงคนไข้มะเร็งร้องทักทาย พร้อมกับส่งรอยยิ้มและตาเป็นประกายมาหาฉัน
วันจันทร์ของทุกอาทิตย์ จะเป็นวันนัดพบปะพูดคุยของฉันกับคนไข้มะเร็ง เราทุกคนจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้กันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาการข้างเคียง หรือความรุนแรงของโรคที่เพิ่มขึ้น บางครั้งก็ได้ความรู้ใหม่เพิ่มจากคนไข้มาอีกต่างหาก
จากการพูดคุยกันหลายๆครั้ง จะเจอคนไข้อยู่ 2 ประเภทใหญ่ๆด้วยกันคือ
- คนไข้ที่หาความรู้ทางวิทยาศาสตร์
- คนไข้ที่หาความรู้ทาง”เขาว่ามา”ศาสตร์
เห่อๆ ทางวิทยาศาสตร์พอรับได้ พอจะคุยกันเข้าใจ เพราะแต่ละเรื่องมีหลักฐานอ้างอิง หาข้อมูลยืนยันได้ว่าจริงมั้ย แต่ทาง”เขาว่ามา”ศาสตร์นี่ เภสัชรับไม่ได้จริงๆค่ะ –” ทุกครั้งจะมีเรื่องขำขันมาถามกันเป็นประจำ เช่น
“คุณหมอ เขาว่ามา ว่าคนไข้มะเร็งห้ามไปงานศพ ถ้าไปจะตาย!”
“คุณหมอ เขาว่ามา ว่าคนไข้มะเร็งห้ามขับจักรยานใช่มั้ย?” หรือ
“คุณหมอ เขาว่ามา ว่าคนไข้มะเร็งห้ามกินฝรั่ง กินแล้วจะตายคาปาก!”
เอ่อ.. เดี๋ยวนะคะคนไข้ “เขา” นี่มันใครหรอคะ?
ความเชื่อ เป็นสิ่งที่ลบล้างยากมากที่สุด เพราะเราต่างถูกปลูกฝังกันมาตั้งแต่โบราณกาล สิ่งที่ช่วยได้คือ พยายามอธิบายด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ เพื่อปรับทัศนคติและความเข้าใจของคนไข้ ให้คล้อยตามและเห็นด้วยมากขึ้น.. แค่นั้น
แต่ก็ยังสงสัยไม่หาย ว่าเขานี่ มันเป็นใคร(Alright) ฮ่าๆ ..หรือต้องไปถาม Polycat ถึงจะรู้ หึหึ!
จริงๆถ้าอธิบายตามหลักวิทยาศาตร์ คือ ที่ไม่แนะนำให้ไปงานศพ เพราะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ หรืออาจได้รับมลพิษจากเขม่าควันมากกว่า เนื่องจากงานศพถือเป็นแหล่งชุมชนแออัด และคนไข้มะเร็งส่วนใหญ่ จะภูมิต้านทานต่ำ เนื่องจากการลดลงของเม็ดเลือดในร่างกาย ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อจะมากเป็นพิเศษ หากติดเชื้อมา โอกาสการเสียชีวิตย่อมมีสูงขึ้นตามไปด้วย..
ส่วนคำถามเรื่องการกินอาหารนี่ก็มีทุกครั้ง อันนี้กินได้มั้ย อันนี้กินได้มั้ย? ถ้าจะไล่บอกทุกตัว อาหารบนโลกนี้มี 108 พันเก้าสิ่งอย่าง หลักๆ ที่คนไข้ต้องรู้คือ ควรกินอาหารที่ สุก สะอาด ปลอดภัย มาจากธรรมชาติ และมีสารเคมีเจือปนน้อยที่สุด .. เคยอ่านบทสัมภาษณ์ของ นพ.บุญชัย อิศราพิสิษฐ์ พูดถึงการใช้ชีวิตด้วยวิถีธรรมชาติ ฉันมักจะยกเอาคำพูดของคุณหมอมาแนะนำคนไข้อยู่บ่อยๆ ว่า ..
คนเราเกิดมาจากธรรมชาติ ดังนั้นควรใช้ชีวิต.. โดยกลับสู่ธรรมชาติจะดีที่สุด
ความจริงแล้วการรักษาโรคมะเร็งมีหลายทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นใช้ยาหรือไม่ใช้ยา แต่ก็ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ แต่มีคนไข้บางราย ใช้ความเชื่อผิดๆในการรักษาไม่ว่าจะเป็นการซื้อสมุนไพร ยาต้ม ยาหม้อมารับประทาน ผลที่ตามมานอกจากมะเร็งจะลุกลามแล้ว ยังทำให้มีความเสี่ยงต่อภาวะการติดเชื้อ และทำให้เสียชีวิตไวขึ้น
น่าแปลกที่คนไข้ส่วนใหญ่ชอบบ่นว่า กลัวตายๆแต่กลับไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ สุดท้าย.. ยิ่งกลัวเท่าไหร่ ยิ่งตายไวเท่านั้น
ความเชื่อ.. สามารถสร้างพลังได้อย่างมหาศาล แต่ควรเชื่ออย่างมีเหตุผลไม่งมงาย คนไข้มักจะถามเสมอว่า “เข้ายาเคมีบำบัด แล้วจะหายเป็นมะเร็งมั้ย?” สิ่งที่ฉันจะตอบกลับไปทุกครั้ง คือ “คนไข้เชื่อมั้ยล่ะคะ ว่าจะหาย ถ้าเชื่อ มันก็จะหาย”
แล้วทุกครั้งที่นัดพบปะกัน บทสนาของเราจะจบด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้มเสมอ 🙂
ฝากติดตามอ่านเรื่องเล่าและประสบการณ์ดีๆจากทีมงานอยู่กับยาได้ที่นี่ค่ะ
