ด้วยวิวัฒนาการที่เปลี่ยนไปของยุคสมัย การเลี้ยงลูกจึงเปลี่ยนไปตาม จากสมัยก่อน พ่อแม่ลูกอาจจะนอนห้องนอนเดียวกัน บางครอบครัวนอนรวมกันตรงกลางบ้าน เพราะลูกหลายคนพื้นที่หนึ่งห้องอาจจะไม่เพียงพอ แต่ปัจจุบันพ่อแม่สมัยใหม่ นิยมสร้างห้องนอนแยกให้ลูก เพื่อฝึกให้ลูกมีวินัย รู้จักแยกแยะ รับผิดชอบการใช้ชีวิตได้มากขึ้น
ถ้าในต่างประเทศ การแยกห้องนอนกับลูกถือเป็นเรื่องปกติมาก เพราะจะเริ่มแยกห้องนอนกับลูกตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป ซึ่งแน่นอนว่า บางครอบครัวกลัวลูกเหงา หรืออยากให้ลูกมีกิจกรรมทำในห้องของตัวเอง ก็มักจะซื้อโทรทัศน์หรือคอมพิวเตอร์ติดตั้งไว้ในห้องนอนของลูกด้วย แต่หารู้ไม่ว่า ความหวังดีของคุณอาจเป็นการประสงค์ร้ายต่อลูกรักโดยไม่รู้ตัว
เนื่องจากมีงานวิจัยของ The University College London scientists ประเทศอังกฤษ ศึกษาพบว่า
เด็กที่มีโทรทัศน์ในห้องนอน มีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน หากเทียบกับเด็กที่ไม่มีโทรทัศน์ในห้องนอน
งานวิจัยชิ้นดังกล่าวได้ถูกตีพิมพ์ไว้ใน the International Journal of Obesity เป็นการศึกษาในเด็กจำนวน 12,556 ราย ที่มีอายุระหว่าง 7-11 ปี จุดประสงค์เพื่อประเมินความสัมพันธ์ระหว่างการใช้เวลากับหน้าจอไม่ว่าจะเป็นหน้าจอโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ หรือแม้กระทั่งโทรศัพท์มือถือในห้องนอนของเด็ก กับการเพิ่มขึ้นของค่าดัชนีมวลกาย (BMI: Body Mass Index) มวลไขมันในร่างกาย (FMI: Fat Mass Index) และ น้ำหนักตัวที่เกินมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า :
- มีเด็กมากกว่าครึ่งหนึ่งที่มีโทรทัศน์อยู่ในห้องนอนตั้งแต่อายุ 7 ปี
- เด็กผู้หญิงที่มีโทรทัศน์อยู่ในห้องนอนตั้งแต่อายุ 7 ปี มีแนวโน้มของความเสี่ยงที่น้ำหนักตัวเกินมาตรฐานเมื่อพวกเขาอายุ 11 ปีประมาณ 30% เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่มีโทรทัศน์ในห้องนอน ส่วนในเด็กผู้ชายมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นประมาณ 20%
ทำไมการมีโทรทัศน์ในห้องนอนลูก ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน ?
นักวิจัยได้กล่าวถึง สาเหตุสำคัญของการมีโทรทัศน์ในห้องนอนลูก ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนนั้น ว่าน่าจะมาจาก
- การนอนน้อยหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ เนื่องจากเสียเวลาไปกับหน้าจอนานเกินไป จึงส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้น้อยลง จึงสะสมพลังงานส่วนเกินหรือที่เรียกว่าไขมันไว้ ทำให้เกิดปัญหาอ้วนตามมา
- การกินขนมขบเคี้ยวหรืออาหารขยะ (junk food) ในขณะดูโทรทัศน์ หรือเล่นคอมพิวเตอร์
- การได้เห็นสื่อโฆษณาต่างๆเกี่ยวกับอาหารขยะ (junk food) เช่น พิซซ่า เคเอฟซี ในขณะดูโทรทัศน์ อาจส่งผลให้เด็กสนใจอาหารประเภทนั้นมากขึ้นได้
สรุปคือ การมีโทรทัศน์ไว้ในห้องนอนลูก อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงของการเป็นโรคอ้วนได้ เนื่องมาจากการใช้เวลากับหน้าจอที่มากเกินไป ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ และส่งผลถึงพฤติกรรมที่ไม่ดีของการรับประทานอาหารขณะดูโทรทัศน์
คำแนะนำเพิ่มเติม
นอกจากการพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนแล้ว ควรให้ลูกของคุณเข้านอนตรงเวลาทุกวัน คือไม่เกิน 4 ทุ่ม เนื่องจากช่วงเวลา 4 ทุ่มถึงตี 5 เป็นช่วงเวลาที่ Growth Hormone หรือ ฮอร์โมนแห่งการเจริญเติบโตหลั่ง ซึ่งจะช่วยให้เด็กเจริญเติบโตสูงสมวัย ไม่แคระแกร็น ทำให้เนื้อเยื่อต่างๆในร่างกายแข็งแรง กล้ามเนื้อแน่น เสริมสร้างภูมิต้านทาน การพัฒนาการด้านสมองได้อีกด้วยค่ะ
เห็นมั้ยล่ะคะว่า สิ่งที่เรามองว่า มันไม่น่าเป็นอันตราย เช่น การปล่อยให้เด็กดูโทรทัศน์อยู่ในห้องนอนของตัวเอง แท้จริงแล้วอาจซ่อนภัยมืดที่เรามองไม่เห็นอยู่ ดังนั้น การมีโทรทัศน์อาจไม่ใช่สิ่งผิด แต่ควรดูช่วงอายุที่เหมาะสมของเด็กว่าเด็กสามารถแยกแยะหรือควบคุมตัวเองได้แล้วหรือยัง? ร่วมด้วยดีกว่าค่ะ
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : BBC news