เคยมีคนถามแอดมินว่า “สารดูดความชื้นมีคนกินจริงหรอ?” ขอตอบเลยค่ะว่า “จริง” บางคนอาจมองว่าเป็นเรื่องตลก จะมีใครไม่รู้เลยหรอว่ามันไม่ใช่ของกิน และที่ซองก็เขียนไว้ชัดขนาดนั้นว่า “ห้ามรับประทาน”
เรื่องง่ายๆ ที่บางคนอาจไม่รู้จริงๆค่ะ เพราะเคยมีคนไข้กินเจ้าสารดูดความชื้นนี้มาแล้ว เพราะเขาอ่านหนังสือไม่ออก และเภสัชแนะนำว่า ยาตัวนี้ต้องกินทุกวันจนหมด ก็เลยแกะซองสารดูดความชื้นกินด้วยเลย
อะไรก็เกิดขึ้นได้จริงๆ แม้แต่ข่าวที่เราอาจเคยได้อ่านผ่านตากันมาบ้าง เกี่ยวกับเด็กแกะซองสารดูดความชื้นกิน เพราะมเกิดจากความไม่รู้หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์นั่นไงล่ะคะ แล้วถ้าสมมติว่ากินเข้าไปแล้วจริงๆ จะเป็นอันตรายมั้ย? วันนี้ทีมของเราเลยไปสืบค้นข้อมูลมาฝากเพื่อนๆ แฟนเพจกันค่ะ
สารดูดความชื้นคืออะไร ?
สารดูดความชื้น หรือซิลิกาเจล สกัดได้จากทรายขาวผสมกำมะถัน มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า ซิลิกอนไดออกไซด์ มีลักษณะเป็นเม็ดกลมๆ มีหลายสี ซึ่งนอกจากจะพบในขนมแล้ว ยังพบได้ในซองยา หรือเฟอร์นิเจอร์หนังอีกด้วย
ประโยชน์ของสารดูดความชื้น เพื่อใช้สำหรับกันชื้นในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อไม่ให้คุณสมบัติของสินค้าเปลี่ยนไป ป้องกันการเกิดเชื้อรา หรือความกรุบกรอบของขนมไม่ให้เสียไป
สารดูดความชื้นมีกี่ชนิด ?
ปัจจุบันสารดูดความชื้นที่เห็นโดยทั่วไป มีหลากหลายชนิด เช่น สารดูดความชื้นที่ทำจากปูนขาว สารดูดความชื้นประเภทดินธรรมชาติ และซิลิกาเจล ซึ่งแต่ละชนิดมีคุณสมบัติแตกต่างกัน ดังนี้
- สารดูดความชื้นที่ทำจากปูนขาว มีต้นทุนต่ำที่สุด แต่ประสิทธิภาพสูงมาก จึงนิยมใช้กันในอดีต แต่ในปัจจุบันเริ่มมีการใช้ในอาหาร และผลิตภัณฑ์อื่นๆ น้อยลง
- สารดูดความชื้นประเภทดินธรรมชาติ นิยมนำมาใส่ไว้ในกระเป๋า หรือกล่องใส่เสื้อผ้า
- ซิลิกาเจล สารดูดความชื้นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่มีประสิทธิภาพด้อยกว่าสารดูดความชื้นที่ทำจากปูนขาว ซึ่งผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับยา นิยมใช้ซิลิกาเจล เพราะปลอดภัยกว่า และในปัจจุบันอาหารหลายๆ ชนิดก็เริ่มหันมาใช้ซิลิกาเจลมากขึ้น เพราะไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เมื่อโดนน้ำ และสามารถนำมาใช้ได้ใหม่
และซิลิกาเจลที่อยู่ในซองขนมหรือกระปุกยานั้น มีด้วยกันหลายชนิด เช่น ชนิดเม็ดสีขาว เม็ดสีน้ำเงิน เม็ดสีส้ม และชนิดเม็ดทราย เป็นต้น
สารดูดความชื้นหรือซิลิกาเจลอันตรายหรือไม่ ?
จากข้อมูลของศูนย์พิษวิทยาได้อธิบายไว้ว่า ถ้าเป็นซิลิกาเจลตัวเดียวที่ไม่มีสารเคมีอย่างอื่นผสมอยู่ ไม่ใช่สารพิษ (non-toxic) แต่ที่ต้องเตือนว่า “ห้ามรับประทาน” เป็นเพราะซิลิก้าเจล ไม่ใช่อาหาร และหากรับประทานเข้าไปอาจทำให้สำลักและอุดตันทางเดินหายใจเป็นอันตรายได้ค่ะ
แต่หากซิลิกาเจลที่มีสารเคมีอื่นผสม หรือที่เรียกว่า “indicator” เช่น โคบอลต์ ที่เมื่อโดนความชื้นจะเปลี่ยนเป็นสีชมพู แต่เมื่ออยู่ในที่แห้ง จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินนั้น อาจเป็นสารก่อมะเร็งได้นะคะ
สรุปคือ ถ้าเป็นเม็ดซิลิกาเจลสีขาวที่ใส่ในกระปุกยาหรือซองขนม จะไม่เป็นอันตราย แต่ถ้าเป็นเม็ดสีน้ำเงินอาจเป็นอันตราย เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งได้ค่ะ
แต่ถึงแม้ว่าซิลิกาเจลเม็ดสีขาวจะไม่มีอันตราย แต่ก็ควรแนะนำคนไข้หรือคนใกล้ตัวว่า ไม่ควรรับประทานจะดีกว่านะคะ
แหล่งข้อมูล : illinois poison center, chemtrack