เมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา Apple ได้เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ล่าสุด คือ iPhone 11, iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max ในงาน Apple Special Event 2019 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งจากสาวก iPhone หรือแม้แต่สาวกเทคโนโลยีอื่นๆ
และด้วยภาพลักษณ์ภายนอกของกล้องหลัง 3 ตัวที่ถูกดีไซน์มาอย่างไม่เหมือนใคร ทำให้เกิดเป็นกระแสในโลกโซเชียล โดยนำมาทำเป็นภาพล้อเลียนต่างๆ
แต่สำหรับคนที่เป็นโรคกลัวรูหรือ Trypophobia อาจไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นซักเท่าไหร่
โรคกลัวรู หรือ Trypophobia คืออะไร
โรคกลัวรู (Trypophobia) คือ ความรู้สึกกลัวและกระอักกระอ่วนเมื่อเห็นภาพหรือวัตถุต่าง ๆ ที่มีรูจำนวนมากรวมอยู่ด้วยกัน เช่น ฝักเมล็ดบัว รังผึ้ง เมล็ดทับทิม สตรอเบอร์รี่ หรือปะการัง เป็นต้น
แต่จากงานวิจัยพบว่าความจริงแล้วผู้ป่วยไม่ได้รู้สึกกลัวรูอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่จะรู้สึกกระอักกระอ่วนเมื่อเห็นรูปภาพของรูกลวงมากมายรวมอยู่ด้วยกัน หรือรูปภาพอวัยวะของสัตว์มีพิษซึ่งมีลักษณะคล้ายรูเล็ก ๆ จำนวนมาก ซึ่งความกลัวที่เกิดขึ้นนั้น อาจสัมพันธ์กับประสบการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นในวัยเด็กมาก่อน หรืออาจมีความผิดปกติที่เกี่ยวกับการทำงานของสมอง รวมถึงมีสภาพแวดล้อมและพันธุกรรมในครอบครัวที่มีความวิตกกังวลมากเกินไป
สมาคมจิตเวชศาสตร์สหรัฐอเมริกา (American Psychiatric Association) ไม่จัดว่า อาการกลัวรูเป็นโรคกลัว (Phobia) เพราะ ผู้ป่วยโรคกลัวอาจรู้สึกกลัวสิ่งต่างๆที่เป็นอันตราย และมักจะมีอาการกลัวอย่างรุนแรง รู้สึกพะอืดพะอม วิตกกังวลทันทีที่เห็นหรือนึกถึงสิ่งที่กลัว และมีอาการกลัวเพิ่มมากขึ้นเมื่อเข้าใกล้วัตถุนั้น บางรายอาจควบคุมความรู้สึกกลัวไม่ได้ จนไม่สามารถทำงานหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ
โรคกลัวรูหรือ Trypophobia รักษาด้วยยาได้หรือไม่
โรคกลัวรูเป็นโรคที่เกิดจากภายในจิตใจไม่ใช่มาจากทางกาย ดังนั้นจึงไม่สามารถรักษาด้วยการใช้ยาเพื่อให้กายหายป่วยได้ เพราะฉะนั้นการรักษาที่ถูกวิธีจึงจำเป็นต้องรักษาด้วยการไปพบจิตแพทย์เท่านั้น
ซึ่งสำนักข่าว CNN ก็ได้ออกมาวิจารณ์หรือเสนอแนะเกี่ยวกับลักษณะกล้องหลัง 3 ตัวของ iPhone 11 Pro, iPhone 11 Pro Max ว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อผู้ที่เป็นโรคกลัวรูหรือ Trypophobia ได้ เนื่องจากมีผู้ใช้งานทวิตเตอร์บางรายโพสต์ว่า “ภาพรูที่เห็นใน iPhone รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ กระตุ้นอาการกลัวรูของเขาให้กำเริบขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องตลกเลย “ นั่นเองค่ะ
แปลและเรียบเรียงโดย อยู่กับยา
แหล่งที่มา : CNN Health, POBPAD, Wikipedia