วันนี้มีคำถามจากแฟนเพจถามมาว่า “พาราเซตามอลขนาด 500 mg ควรทานแค่วันละเม็ดใช่หรือไม่ ถ้ากินวันละ 4 เม็ด อันตรายหรือเปล่า” วันนี้ทีมงานอยู่กับยา จะมาไขข้อสงสัยให้ได้ทราบกันค่ะ
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับเจ้าพาราเซตามอลกันก่อนดีกว่า
ยาพาราเซตามอล เป็นยาสามัญประจำบ้าน สรรพคุณของยาพาราเซตามอล(Paracetamol หรือ Acetaminophen) คือช่วยระงับปวดและลดไข้ ถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์ตั้งแต่ พ.ศ.2436 และใช้กันอย่างแพร่หลายในคน เนื่องจากมีข้อดีกว่าแอสไพรินตรงที่ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุกระเพาะอาหาร และไม่มีผลต่อการเกาะตัวของเกล็ดเลือด(platelets) จึงไม่ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารและไม่ทำให้การแข็งตัวของเลือดเสียไป แต่อย่างไรก็ตามพาราเซตามอลไม่มีผลในการลดอักเสบเหมือนแอสไพริน จึงไม่สามารถใช้ในการลดการอักเสบของระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ หรือข้ออักเสบได้
กลไกการเกิดพิษต่อตับของยาพาราเซตามอล
ก่อนอื่นต้องเกริ่นให้เข้าใจถึงขั้นตอนการจัดการของร่างกาย เวลาที่เรากินยาแต่ละตัวเข้าไป มีด้วยกัน 4 ขั้นตอนดังนี้
- การดูดซึมของยาเข้าสู่ร่างกาย (absorption)
- การกระจายตัวของยา (distribution)
- การเปลี่ยนแปลงยา (metabolism)
- การขับถ่ายยาออกจากร่างกาย (excretion)
และขั้นตอนที่เกี่ยวกับการเกิดพิษจากยาได้นั้นก็คือการเปลี่ยนแปลงยา(metabolism) ซึ่งขั้นตอนนี้จะเกิดขึ้นมากที่ตับ
สำหรับ paracetamol ก็เช่นกัน เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะถูกเปลี่ยนแปลงที่ตับ โดยส่วนใหญ่ของยาจะทำปฏิกิริยา conjugate กับ glucuronide และ sulfate ในร่างกาย เกิดเป็นสารที่ไม่มีพิษ(nontoxic) แล้วขจัดออกจากร่างกาย ส่วนน้อยของยาจะถูกเปลี่ยนแปลง(metabolized)โดยเอนไซม์ cytochrome P-450 system เกิดเป็นสารที่เกิดพิษ(toxic metabolite) คือ N-acetyl-p-benzoquinoneimine(NAPQI) แต่ในร่างกายยังมี glutathione ซึ่งคอยทำหน้าที่เป็น reducing agent คือช่วยป้องกันสารพิษโดยไปจับกับ paracetamol ที่เป็นพิษและขับออกทางปัสสาวะ
ดังนั้น ถ้าร่างกายยังมี glutathione เพียงพอสารที่เกิดพิษ(toxic metabolite) นี้จะถูกขจัดออกไปได้ จึงไม่เกิดพิษจากยา แต่ถ้าในภาวะที่ได้รับ paracetamol เกินขนาด แม้ว่าส่วนหนึ่งของยาจะถูกขจัดออกไปแล้ว แต่ส่วนที่เหลือก็ยังถูกเปลี่ยนเป็นสารที่มีพิษ(toxic metabolite) จำนวนมากจนเกินที่ glutathione จะป้องกันได้หมด ผลที่ตามมาก็คือจะมีสารที่เกิดพิษ(toxic metabolite) จำนวนมากจนทำให้เกิดเป็นพิษต่อร่างกายหรือต่อตับขึ้นได้นั่นเองค่ะ
คำถามที่ 1 พาราเซตามอลขนาด 500 mg ควรทานแค่วันละเม็ดใช่หรือไม่ ?
คำตอบ คือ ขนาดยาพาราเซตามอลที่เหมาะสมในคน ปัจจุบัน USFDA หรือองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา ได้ให้คำแนะนำในการปรับลดขนาดยาพาราเซตามอล ที่ใช้แต่ละครั้งไม่ให้เกิน 650 มิลลิกรัม และขนาดยาสูงสุดต่อวันคือ 2,600 มิลลิกรัม เพื่อลดความเสี่
คำถามที่ 2 ถ้ากินพาราเซตามอลขนาด 500 mg วันละ 4 เม็ด อันตรายหรือเปล่า?
คำตอบคือ จากข้อมูลข้างต้นแนะนำว่า เพื่อลดความเสี่
- ผู้ป่วยเป็นผู้ที่ดื่มสุราเรื้อรังหรือไม่? เพราะถึงแม้ว่าจะรับประทานยาพาราเซตามอล ไม่เกินจากขนาดที่แนะนำ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงในการเกิดความเป็นพิษต่อตับได้ เนื่องจากผู้ป่วยเหล่านี้มีการกำจัดสารพิษ (toxic metabolite) ออกจากร่างกายได้ช้า หรือเกิดจากการที่ผู้ป่วยมีการสร้างสารพิษเหล่านี้ได้มากกว่าปกติ ซึ่งจากรายงานพบว่ามีผู้ป่วยส่วนหนึ่งที่พบความเป็นพิษต่อตับจากการรับประทานพาราเซตามอล ในขนาดต่ำกว่า 2500 มิลลิกรัมต่อวัน
- ผู้ป่วยที่มีภาวะขาดสารอาหารหรือไม่? ผู้ป่วยประเภทนี้จะมีความไวต่อการเป็นพิษต่อตับเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ป่วยจะมีการสร้าง glutathione ที่จะช่วยทำลาย toxic metabolite ที่ชื่อ NAPQI ได้ลดลง
- ผู้ป่วยที่มีโรคตับอยู่เดิมหรือไม่? หากเกิดการทำลายเนื้อเยื่อตับขึ้น โอกาสที่การทำงานของตับจะกลับคืนสู่สภาพปกติอาจยากกว่าคนทั่วไป
พาราเซตามอล เป็นยาสามัญประจำบ้าน แต่ก็ไม่ควรรับประทานถ้าไม่จำเป็น เพราะหากใช้ผิดวิธี อาจมีพิษต่อตับได้
เรียบเรียงโดย อยู่กับยา
แหล่งที่มา : คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล, The U.S. Food and Drug Administration (FDA)