เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนหลังสัมผัสโรคพิษสุนัขบ้า

วันนี้มีเรื่องดี ๆ สำหรับคนรักน้องหมามาเล่าสู่กันฟังซักหน่อย เพราะช่วงนี้สังเกตว่า มีคนไข้มารับยาวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้ากันเยอะ เนื่องจากอยู่ในช่วงหน้าร้อน แต่บางคนอาจเข้าใจว่า โรคพิษสุนัขบ้า เป็นได้แค่ช่วงหน้าร้อนเท่านั้น วันนี้เภสัชกรจึงไปหาข้อมูลเพิ่มเติมมา พบว่า

โรคพิษสุนัขบ้า ไม่ได้เป็นแค่ช่วงหน้าร้อน แต่เป็นได้ทุกฤดูค่ะ

โรคพิษสุนัขบ้าคืออะไร

โรคพิษสุนัขบ้า เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส จึงไม่ได้เป็นเฉพาะแค่หน้าร้อน สามารถพบการระบาดได้ทั้งปีหรือทุกฤดู สุนัขที่เป็นโรคอยู่สามารถแพร่เชื้อได้ ไม่เพียงเฉพาะช่วงที่เป็นสัดเท่านั้น อีกทั้งสุนัขเองก็ไม่ได้เป็นสัดเพียงในช่วงเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคมด้วย โดยเฉลี่ยสุนัขเพศเมียจะแสดงอาการเป็นสัดประมาณปีละ 1-2 ครั้ง ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นช่วงเดือนไหน ดังนั้นโอกาสที่สุนัขจะได้รับเชื้อจึงไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงในช่วงฤดูดังกล่าว การใส่ใจและการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้านั้นจึงควรให้ความสำคัญตลอดทั้งปี

แล้วถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน โดนน้องหมางับเข้าต้องทำยังไงบ้าง

ไม่ต้องตกใจค่ะ เพราะเภสัชกรก็เคยโดนน้องหมากัดมาแล้วเหมือนกัน ตอนเด็กๆ แม่เคยบอกว่า ถ้าโดนน้องหมากัดแล้วจะตาย (เพราะแม่ไม่อยากให้ไปเล่นใกล้ๆหมา เห่อๆ – -“) เลยกลัวมาก อยู่มาวันหนึ่งโดนน้องหมาวิ่งมางับเข้าที่ขา ตอนนั้นรู้สึกว่า ตายแน่เรา คือกลัวมาก เพราะแม่เคยบอกว่าโดนหมากัดแล้วจะตาย แต่สุดท้ายก็ไม่ตายค่ะ แค่เจ็บตอนฉีดวัคซีน ฮ่า ๆ

ใช่แล้วค่ะ โดนน้องหมากัดไม่ตายนะคะ ถ้าไปฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า

การฉีดวัคซีนหลังสัมผัสโรคพิษสุนัขบ้านั้นมีอยู่ 2 สูตรด้วยกัน ดังนี้

1. สูตรการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ หรือ Intramuscular regimens
   วิธีการ >> ฉีดวัคซีน 1 เข็มเข้าบริเวณกล้ามเนื้อต้นแขน ในวันที่ 0, 3, 7, 14 และ 28
2. สูตรการฉีดเข้าชั้นผิวหนัง หรือ Intradermal regimens
   วิธีการ >> ฉีดวัคซีนเข้าในผิวหนังบริเวณต้นแขนทั้ง 2 ข้าง ข้างละ 1 จุด (รวม 2 จุด) จุดละ 0.1 มล. ในวันที่ 0, 3, 7 และ 28 หรือฉีดวัคซีนเข้าในผิวหนังบริเวณต้นแขนทั้ง 2 ข้าง ข้างละ 1 จุด (รวม 2 จุด) จุดละ 0.1 มล. ในวันที่ 0, 3, 7 และฉีดอีก 1 จุด จุดละ 0.1 มล. เช่นกัน แต่ฉีดต้นแขนแค่ข้างเดียวในวันที่ 28 และ 90 ค่ะ

วันก่อนมีคนไข้ถามว่า “ถ้ามาฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 ก่อนนัด 1 วัน สามารถฉีดได้หรือไม่?” เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยข้องใจในปัญหาดังกล่าวเช่นกัน วันนี้เภสัชกรจะมาไขข้อข้องใจให้ได้ทราบกันค่ะ..

การฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า คนไข้ควรได้รับวัคซีนภายใน 48 – 72 ชั่วโมงหลังการสัมผัส ควรฉีดวัคซีน 3 ครั้งแรกตรงตามนัด (Day 0-3-7) จะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้เกิดขึ้นได้เร็วที่สุด ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการป้องกันโรคหลังสัมผัสโดยต้องฉีดให้ครบ 3 ครั้ง ภายใน 14 วัน แต่ 2 เข็มหลัง มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันอยู่นานขึ้น ดังนั้น ถ้ามาฉีดไม่ตรงตามเวลาใน เข็มที่ 4 และ 5 สามารถฉีดต่อไปจนครบ โดยไม่ต้องเริ่มใหม่นะคะ

และที่สำคัญ ถ้ารักน้องหมา อย่าลืมพาน้องหมาของคุณไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้ากันด้วยค่ะ

เรียบเรียงข้อมูลโดย อยู่กับยา

แหล่งที่มา : สถานเสาวภา สภากาชาดไทย